พระธาตุนางเพ็ญ ตั้งอยู่ที่ บ้านเกาะแก้ว ม.7 ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ |
|
พระธาตุนางเพ็ญ ตั้งอยู่ที่ บ้านเกาะแก้ว ม.7 ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ
ประวัติย่อของพระนางเพ็ญ
เมืองเพ็ญนี้เป็นเมืองโบราณเมืองหนึ่งพร้อมกับเมืองหนองคาย เมืองบาง เมืองภูเงิน (หนองบัวลำภู ในปัจจุบัน) เมืองหนองหาน เมืองประโค เมืองเวียงคุก เมืองเหล่านี้มีเจ้าปกครอง (สมัยขอมอพยพออกจากแดนไทยประมาณ 270 ปี) เมืองเพ็ญแต่เดิมชื่อเมืองหนองเป็ดโพธิ์เวียง ซึ่งตรงต่อหนองคาย ประชากรได้รับความร่มเย็นเป็นสุขจากเจ้าปกครองในปีเถาะ เดือนห้า วันเพ็ญ พระนางจันทรา มเหสีได้คลอดบุตรเป็นหญิงมีรูปร่างสวยงามประดุจพระจันทร์วันเพ็ญ จะหาธิดาเมืองใดจะงามเทียบเท่า พระบิดา มารดาจัดประทานนามให้บุตรตนว่า “ นางเพ็ญ ” และได้ให้ความรักเอ็นดูเอาอกเอาใจจนนางเพ็ญอายุได้ 19 ปี เมื่อ เมื่อนางเพ็ญเติบโตเป็นสาวก็ยิ่งงดงามยิ่งขึ้น ใครเห็นก็มองไม่อิ่มจนเล่าลือไปถึงเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็มาชม เมื่อเห็นนางเพ็ญงามมากจึงอยากได้เป็นลูกสะใภ้ อยากได้เป็นภรรยา ในปีถัดมาสามหัวเมืองจะมาสู่ขอนางเพ็ญ คือ เมืองฝายเหนือ(เมืองบาง) โดยเจ้าชายขัดติยะราช เป็นผู้มีปรีชาสามารถมีรูปโฉมงดงามเป็นที่รักใคร่นับถือของประชาชน เป็นผู้ช่วยว่าราชการแทนบิดา หัวเมืองทางตะวันออกคืออันทะปัตถานคร (อำเภอหนองหานในปัจจุบัน) มีบุตรชื่อเจ้าชายเชียงงาม และฝ่ายเมือง ภูเงินโดยท้าวไชยะเสนะได้จัดแจงเครื่องบรรณาการมาสู่ขอนางเพ็ญ เป็นเหตุให้พระวรปิตตายุ่งยากใจมาก เจ้าเมืองทั้ง 3 ได้ยกกองทัพมาล้อมหนองเป็ดโพธิ์เวียงไว้ ถ้าจะตกลงรับหมั้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็เกรงอีกสองเมืองจะทำสงครามแย่งชิงนางเพ็ญให้ได้ พระวรปิตตาได้ปรึกษาหารือดูว่าจะเอาเมืองใดเป็นลูกเขย พระนางจันทรามเหสีจึงลงความเห็นว่าเมืองใดมีอำนาจมากก็เลือกเมืองนั้น ส่วนนาเพ็ญผู้เป็นธิดาไม่เห็นด้วย ถ้านางเพ็ญเป็นภรรยาของอีกฝ่ายหนึ่ง สองเมืองก็จะยกทัพเข้าโจมตีเป็นที่เดือดร้อนแก่ไพร่ฟ้าประชาชนต้องล้มตายลงเป็นจำนวนมาก พระนางจึงขอยอมพลีชีวิตของนางเองแต่ผู้เดียวดีกว่าทำให้ผู้อื่นต้องเสียชีวิตแทนตน จึงไม่ยอมแต่งงานกับใคร เมื่อคิดเช่นนั้น นางจึงอ้อนวอนบิดามารดาสร้างธาตุนี้ขึ้น ลูกหนึ่งตรงหน้าบ้านก่อด้วยอิฐเสริมปูน ประมาณ 5 เมตร วัดฐานโดยรอบ 18 เมตร ให้มีโพรงข้างใน ปิดประตูธาตุนี้ไว้ สร้างขึ้นเมื่อวันศุกร์ ปีมะแม เดือนสี่ พ.ศ. เท่าไหร่ตำนานไม่บอกไว้ เสร็จในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 7 พระนางก็กราบลาบิดามารดา ประชาชนพลเมืองเข้าพิธีกรรมในโพรงธาตุเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน เมื่อพระนางเพ็ญเข้าธาตุก็ไม่ยอมโผล่หน้ามาให้ใครเห็น เจ้าชายทั้ง 3 ก็มารวมกันที่ริมฝั่งน้ำตรงหน้าธาตุ มีการตีฆ้องร้องป่าวให้มีเสียงอึกทึกครึกโครมพอครบ 7 วัน พระนางเพ็ญก็ให้บิดามารดาก่ออิฐเสริมปูนอัดประตูธาตุในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปีมะแม
ดังนั้นในวันนี้ของทุกปีชาวบ้านเพ็ญจึงพร้อมกันจัดทำบุญบ้องไฟจุดเพื่อเป็นการบูชาดวงวิญญาณของ พระนางเพ็ญ ให้ได้สู่สรวงสวรรค์เหมือนกับบ้องไฟที่จุดแล้วลอยขึ้นฟ้าเป็นงานเทศกาลประจำปีของเราตลอดมาทุกวันนี้ เพื่อปวงสรวงดวงวิญญาณของพระนางเพ็ญที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยวยอมพลีชีวิตของตนผู้เดียวป้องกันความ วิบัติขัดสนของประชาชน
ปัจจุบันพระธาตุนางเพ็ญยังสถิตสถานอยู่ที่วัดเกาะแก้ว หมู่ที่ 11 ต.เพ็ญ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งได้รับการบูรณะองค์ธาตุเรื่อยมาเพื่อให้อยู่ในสภาพคงทนถาวร
** เรียบเรียงจากประวัติอำเภอเพ็ญ **
โดย นางสาวเกศณี นระมาตย์
6 กรกฎาคม 2546 |
|
โพสเมื่อ : 29 พ.ค. 2556 |
|
|